ปัพพตูปัตถรชาดก ชาดกว่าด้วยอภัยโทษ
พระเทวีและอำมาตย์ราชองครักษ์ แม้ทั้งสองจะมีใจให้กัน แต่ทุกครั้งที่แอบนัดพบกันนั้น ก็รู้สึกผิดต่อพระเจ้าพรหมทัตไม่น้อย “ ความรักของเรา คงเป็นไปไม่ได้หรอกท่านองครักษ์ เราไม่สามารถทอดทิ้งองค์พระเจ้าอยู่หัวได้ ” “ พระเทวีรู้สึกอย่างไร หม่อมฉันเข้าใจดี แม้แต่หม่อมฉันเองก็ไม่อาจทรยศต่อพระเจ้าพรหมทัตได้
กรณีศึกษา คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 20
ต่อจากตอนที่แล้ว ภายหลังจากที่ตัวเธอ หรือนายทหารราชองครักษ์หนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ได้เข้าถึงความสุขและความสว่างภายในเช่นนั้นแล้ว ตัวเธอก็มักจะชอบเดินทางมาสั่งสมบุญ ฟังธรรม และนั่งสมาธิกับพระเถระอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ
กรณีศึกษา คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 16
พระราชาปรารถนาจะทำให้โลกในยุคนั้น เต็มไปด้วยคนดีมีศีลธรรม โดยปราศจากคนภัยคนพาลและโจรผู้ร้ายทั้งหลาย เป็นต้น เพื่อที่ทุกคนในโลกจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก
กรณีศึกษา คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 15
เมื่อนายทหารราชองครักษ์หนุ่มในภพชาตินั้น ได้เข้าไปพบพระราชาแล้ว ก็ได้กราบทูลรายงานเกี่ยวกับภารกิจการกวาดล้างพวกกลุ่มโจรป่า ให้พระองค์ทรงสดับแบบเป็นขั้นเป็นตอนโดยละเอียด
ปรโลกนิวส์ บุญหนุนนำพาไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ ตอนที่1
สำหรับบุพกรรมที่ทำให้สามีของลูกต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในภพชาติปัจจุบันนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะวิบากกรรมปาณาติบาตที่สามีของลูกได้เคยทำผิดทำพลาดไว้ในหลายๆ พุทธันดรก่อนๆ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 187
พระเจ้าจุลนีตรัสว่า “ขอบใจเธอมาก พ่อบัณฑิต ฉันจะรอ ฝากเธอช่วยนำบรรณาการเหล่านี้ไปมอบให้ลูกหญิงของฉันด้วย” ตรัสดังนี้แล้ว ก็ทรงฝากทาสชายหญิง โค กระบือ ทองเงิน ผ้า ช้าง ม้า และรถที่ตกแต่งอย่างดี ให้มโหสถนำไปพระราชทานเป็นของกำนัลแด่พระราชธิดาปัญจาลจันที จากนั้นก็รับสั่งให้ตระเตรียมโภชนะสำหรับบำรุงเลี้ยงกองรถและกองราบอย่างอิ่มหนำสำราญ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 152
สุวโปดกเจ้านกแสนรู้ รับคำสั่งของมโหสถแล้ว ก็ประคองปีกทั้งสองบรรจบกัน เพื่อแสดงความคารวะ แล้วบินประทักษิณรอบมโหสถ จากนั้นก็โผผินออกจากบัญชรแห่งคฤหาสน์ด้วยความเร็วปานลมกรด ไม่ช้าก็ลับจากสายตามโหสถบัณฑิตไป
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 151
ครั้นแล้ว มโหสถก็คิดหาอุบายได้อย่างหนึ่ง จึงได้เรียกสุวโปดกมา เพื่อมอบหมายภารกิจครั้งสำคัญ “มาถูระ เจ้าผู้มีปีกเขียวขจี มานี่เถิดลูกรัก” เจ้าสุวโปดกได้ยินเสียงร้องเรียกของมโหสถ ก็ดีอกดีใจ รีบบินร่อนออกจากกรงทอง ลงมาเกาะอยู่ที่คอน พลางส่งเสียงร้องทักทายด้วยภาษามนุษย์ว่า “นายของบ่าว นายผู้เป็นที่รักยิ่งของบ่าว มีสิ่งใดให้บ่าวรับใช้หรือขอรับ”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 142
ยามใด ที่พราหมณ์เกวัฏส่องดูใบหน้าของตนบนกระจก มองเห็นรอยแผลเป็นที่หน้าผากทีไร ก็ให้เป็นเดือดเป็นแค้น จนไม่อาจที่จะสกัดกลั้นเพลิงโทสะที่เดือดพล่านอยู่ภายในใจได้ ถึงกับขบกรามแน่น แล้วเปล่งเสียงคำรามออกมาดังๆ ด้วยแรงแค้นแรงอาฆาตที่สุมแน่นอยู่เต็มหัวอก
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 141
พราหมณ์อนุเกวัฏกลับเข้าไปในฐานทัพแล้ว ก็ตะโกนก้องร้องประกาศแก่พวกพ้องว่า “พระเจ้าจุลนีหนีไปแล้ว...พวกเรารีบหนีกันเร็ว ขืนอยู่จักต้องตายไปตามๆกัน ไปเถิดพวกเรารีบหนีเร็วเข้า” บรรดาผู้สืบราชการลับ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนร้อง ก็พากันตะโกนบอกต่อๆกันไป จนเสียงดังระเบ็งเซ็งแซ่ไปทั้งกองทัพปัญจาละ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 136
ด้วยมธุรสวาจาอันไพเราะอ่อนหวาน คล้อยตามพระราชอัธยาศัย ล้วนแล้วแต่เป็นถ้อยคำเชิดชูพระเกียรติ ในทุกครั้งที่มีโอกาสได้กราบบังคมทูล ในไม่ช้าพราหมณ์อนุเกวัฏก็สามารถยึดพระราชหฤทัยของพระเจ้าจุลนีได้สำเร็จ แม้แต่พราหมณ์เกวัฏ ปุโรหิตาจารย์คนสำคัญของพระเจ้าจุลนี ที่ใครๆต่างก็ไม่กล้าเข้าหา
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 135
พราหมณ์อนุเกวัฏยังไม่จบเพียงเท่านั้น ยังกราบทูลต่อไปเพื่อผูกเงื่อนให้น่าเชื่อถือว่า “ใช่แล้วพระพุทธเจ้าข้า ล่าสุดเมื่อมิถิลาเผชิญศึกครั้งใหญ่ ชาวมิถิลาต่างกล่าวขวัญถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพปัญจาลนคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ ผู้ทรงสามารถนำกองทัพแห่งปัญจาละ คว้าชัยมาได้ตลอดผืนแผ่นดินชมพูทวีป
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 132
พราหมณ์อนุเกวัฏได้คิดอย่างรอบครอบแล้ว ก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นว่า “ท่านบัณฑิต ความภาคภูมิใจอันใดเล่าในชีวิต ที่จะมาเทียบเท่ากับการที่ได้รับใช้ชาติบ้านเมือง และยังมีส่วนได้ช่วยงานท่านบัณฑิตอีก ท่านจะให้ข้าพเจ้าทำอะไร จงบอกมาเถิด หากว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์แก่แผ่นดินเกิด ต่อให้ต้องสละชีวิต ข้าพเจ้าก็ยินดี”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 131
จากตอนที่แล้ว พระเจ้าจุลนีเสด็จทรงม้าพระที่นั่งควบไปอย่างรวดเร็ว ครั้นพระองค์ทรงเห็นว่าเสด็จมาไกล จึงทรงรั้งม้าพระที่นั่งให้ชะลอฝีเท้าลง รอขบวนม้าพระที่นั่งของพระราชาทั้งร้อยเอ็ดพระองค์เสด็จมาทัน จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินต่อไปตามปกติ
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 126
จากตอนที่แล้ว พราหมณ์เกวัฏได้กราบทูลอุบายของตนแด่พระเจ้าจุลนีว่า “ขอเดชะ เลศที่จะกระทำนี้เรียกว่า ธรรมยุทธ์ คือ การรบที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเลย เพียงให้ราชบัณฑิตของพระราชาทั้งสองพระนครได้มาพบกัน ณ สถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง แต่มีเงื่อนอยู่ว่า ในบัณฑิตทั้งสองนั้น หากผู้ใดไหว้ก่อน ผู้นั้นก็ถือว่าเป็นผู้แพ้ และความแพ้ของผู้นั้นก็ถือเป็นความพ่ายแพ้ของกองทัพฝ่ายนั้นด้วย พระพุทธเจ้าข้า”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 125
พระเจ้าจุลนีสดับคำทูลนั้นแล้ว ก็ตรัสด้วยความกังวลพระหฤทัยว่า “ก็ เราจะทำอย่างไรได้เล่า ท่านอาจารย์ เพราะมโหสถได้เตรียมการป้องกันบ้านเมืองไว้อย่างเข้มแข็งถึงเพียงนี้ ไม่ว่าเราจะโจมตีด้วยวิธีใดๆ ก็ยังไม่เป็นผล”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 124
พราหมณ์เกวัฏนั้น เมื่อไม่อาจทนฟังถ้อยคำเหล่านั้นได้ จึงรีบกราบทูลท้าวเธอด้วยน้ำเสียงอย่างหนักแน่นว่า “ขอเดชะมหาราชเจ้า ถ้าพระองค์เห็นว่า มโหสถเป็นบัณฑิต เพราะเหตุที่ฉลาดในการป้องกันมิถิลานคร ถ้าเช่นนั้นข้าพระพุทธเจ้าก็เป็นบัณฑิตเหมือนกัน เพราะอุบายที่จะโจมตีมิถิลานครของข้าพระองค์นั้นยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ดอกพระเจ้าข้า
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 123
มโหสถสั่งการให้ทหารระดมกำลังช่วยกันโกยเลนขึ้นไปถมบนกำแพง แล้วให้หว่านข้าวเปลือกลงในที่นั้น เพียงชั่วข้ามคืนเดียวข้าวเปลือก เหล่านั้นก็งอกงามขึ้น ชูใบเขียวชอุ่มเต็มตลอดแนวสันกำแพงเป็นที่น่าอัศจรรย์ ที่เป็นดังนี้เพราะความปรารถนาของพระโพธิสัตว์ ย่อมสำเร็จได้ด้วยบุญญานุภาพที่สั่งสมมาดีแล้ว
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 122
เมื่อมโหสถบัณฑิตทราบอุบายนั้นแล้ว ก็รำพึงว่า “เห็น ทีว่าพระเจ้าจุลนีคงจะไม่รู้จักเรา เอาเถอะเราจะแสดงให้ท้าวเธอได้ประจักษ์ว่ามิถิลานครเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ ต่อให้ถูกล้อมสักกี่ปีก็ไม่มีวันอดตาย”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 121
พวกทหารของมิถิลานครยังร้องตะโกนด่าว่า ข่มขู่ทหารของปัญจาลนคร และพูดยั่วให้โกรธว่า “เฮ้ย พวกเจ้า เหตุไฉนจึงรีรออยู่เล่า พวกเรากำลังสนุกทีเดียว พวกเจ้าคงคิดว่ามิถิลานครจะง่ายเหมือนกับนครอื่นๆเป็นแน่ เสียใจด้วยนะ ท่าทางพวกเจ้าจะเหน็ดเหนื่อยกันมากสินะ มาสิจงมาดื่มสุรา มาเคี้ยวกินเนื้ออร่อยๆ ด้วยกันจะเป็นไรไป”