ผู้ที่มัวเก็บดอกไม้ (กามคุณ) เพลินอยู่
ผู้ที่มัวเก็บดอกไม้(กามคุณ)เพลินอยู่มีจิตใจข้องอยู่แต่ในกามคุณไม่รู้จักอิ่มมักตกอยู่ในอำนาจมฤตยู
การควบคุมจิตด้วยปัญญา
ถ้าเรามีจิตไม่ถูกปรุงแต่ง ก็เรียกว่า เรามีจิตเป็นพุทธะขึ้นมา เป็นผู้รู้ขึ้นมาทันที รู้อะไรถูกต้องขึ้นมาแล้วก็เป็นตัวเองอย่างแท้จริง สภาพมันอยู่คงที่หน้าตาของมันดั้งเดิม ของมันปรากฏอยู่อย่างนั้น ไม่ถูกฉาบไปด้วยกิเลส เรียกว่า ไม่ถูกปรุงแต่ง สภาพจิตมันเป็นอย่างนั้น...
จิตที่ฝึกฝนผิดทาง
จิต คือนามธรรมอย่างหนึ่ง ที่มีอยู่ในตัวเรา มีหน้าที่คิดตามสิ่งที่มากระทบ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเมื่อมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบ วิญญาณจะรับรู้ จิตก็จะทำหน้าที่คิดตามสิ่งนั้น ๆ จิตจะคิดผิดหรือคิดถูก ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้น จิตถูกปัญญา หรือกิเลสครอบงำ จิตก็จะคิดตามอำนาจของกิเลส หรือปัญญา
กรรมชั่วที่ทำ
กรรมชั่วที่ทำแล้ว ยังไม่ให้ผลทันทีทันใด เหมือนนมที่รีดใหม่ ๆ ไม่กลายเป็นนมเปรี้ยวในทันที แต่มันจะค่อย ๆ เผาผลาญผู้กระทำในภายหลัง เหมือนไฟไหม้แกลบ
ราตรีนาน สำหรับคนนอนไม่หลับ
ราตรีนาน สำหรับคนนอนไม่หลับ ระยะทางโยชน์หนึ่งไกล สำหรับผู้ล้าแล้ว สังสารวัฎยาวนาน สำหรับคนพาล ผู้ไม่รู้แจ้งพระสัทธรรม
ยศย่อมเจริญแก่ผู้ขยัน มีสติ
ยศย่อมเจริญแก่ผู้ขยัน มีสติ มีการงานสะอาด ทำงานด้วยความรอบคอบระมัดระวัง เป็นอยู่โดยชอบธรรม ไม่ประมาท
คนที่ท่องจำตำราได้มาก แต่มัวประมาทเสีย
คนที่ท่องจำตำราได้มาก แต่มัวประมาทเสีย ไม่ทำตามคำสอน ย่อมไม่ได้รับผลที่พึงได้จากการบวช เหมือนเด็กเลี้ยงโค นับโคให้คนอื่นเขา
กามคุณ
กามคุณ หมายถึง สิ่งที่น่าปรารถนา ชวนให้รักชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัดยินดี มี 5 ชนิด คือ รูป (สิ่งที่ตามองเห็น) เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สิ่งที่กายสัมผัส) กามคุณ 5 นี้เป็นอารมณ์ คือสิ่งที่ยึดดึงใจให้ปรารถนา ให้รักใคร่ เป็นต้น จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "กามารมณ์" แปลว่า อารมณ์คือกามคุณ ไม่ได้หมายถึงอารมณ์ทางเพศเพียงอย่างเดียว
โอวาทหลวงพ่อธัมมชโย ในการสร้างสันติภาพโลกด้วยสมาธิ
ผู้มีสติ
ผู้ใดมีสติอยู่ทุกเวลา ผู้นั้นก็จะได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเมื่อตา มองเห็นรูปก็เป็นธรรมะ หูได้ยินเสียงก็เป็นธรรมะ จมูกได้กลิ่นก็เป็นธรรมะ ลิ้นได้รสก็เป็น ธรรมะ ธรรมารมณ์ที่เกิดขึ้นกับใจ นึกขึ้นได้เมื่อใดเป็นธรรมะเมื่อนั้น ฉะนั้น ผู้มีสติจึงได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน มันมี