ชี้ทางก็ได้บุญ
เมื่อก่อนเรากำพร้า เลี้ยงชีพโดยความลำบาก เราไม่มีอะไรจะให้ทาน เรือนของเราอยู่ใกล้เรือนของเศรษฐี พวกวนิพกถามถึงเรือนเศรษฐีกะเรา เราได้ชี้ทางบอกเรือนของเศรษฐี ฝ่ามือของเราจึงให้สิ่งที่น่าปราถนา ผลบุญย่อมสำเร็จที่ฝ่ามือของเรา
อานิสงส์เอาของหอมฉาบทากุฏิ
บุคคลใดเอาของหอมทาพื้นพระคันธกุฎี ด้วยผลของกรรมนั้น ไม่ว่าเขาจะเกิดในชาติใดๆ จักเป็นผู้มีกลิ่นกายหอมทุกชาติไป จักเป็นผู้เจริญด้วยกลิ่นคือคุณแห่งศีล จักเป็นผู้ไม่มีอาสวะแล้วจักปรินิพพาน เพราะกรรมที่ทำไว้ดีนั้น และเพราะการตั้งเจตจำนงไว้
อานิสงส์ถวายเครื่องอัฏฐบริขาร
มหาสมุทรไม่อิ่มด้วยน้ำที่ไหลมาจากทุกทิศทุกทาง ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ พระราชาไม่ทรงอิ่มด้วยราชสมบัติ คนพาลไม่อิ่มด้วยบาป หญิงไม่อิ่มด้วยของ ๓ อย่าง คือ เมถุนธรรม เครื่องประดับ และการคลอดบุตร พราหมณ์ไม่อิ่มด้วยมนต์ ผู้ได้ฌานไม่อิ่มด้วยวิหารสมาบัติ คือการเข้าฌาน พระเสขะไม่อิ่มด้วยการสละออกในการให้ทาน
โลกมนุษย์ที่สุดของความแตกต่าง
มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความแตกต่างของแต่ละบุคคล แม้เราจะมีอวัยวะที่เป็นคนเหมือนกัน แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน ความแตกต่างเหล่านี้ หากให้เราคิดหาคำตอบด้วยตนเอง ก็คงจะกะโหลกบานสติเฟื่องเป็นแน่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงให้คำตอบเหล่านี้ไว้แล้วใน จูฬกัมมวิภังคสูตร
สร้างบุญอะไรดีกว่า
สำหรับผู้รักการสร้างบุญมักมีคำถามบ่อยๆ ว่า ทำอะไรได้บุญมากกว่ากัน ครั้นพอรู้ว่า ความดีนั้นได้บุญมากกว่าความดีนี้