ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 96
การณ์ครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่เป็นบัณฑิตนั้น เมื่อถูกความริษยาเข้าครอบงำ จิตใจที่เคยสว่างไสวก็พลันเสื่อมคุณภาพกลับมืดมัว เห็นถูกเป็นผิด เห็นดำเป็นขาว คิดกำจัดได้แม้กระทั่งผู้มีพระคุณ ไม่คิดถึงพระคุณของบุคคลผู้ที่เคยเป็นที่พึ่งให้แก่ตน
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 97
นี่ มันเรื่องอะไรกัน คนหนึ่งกล่าวว่าควรเปิดเผยความลับแก่สหาย คนหนึ่งว่าควรเปิดเผยความลับแก่พี่น้อง คนหนึ่งก็ว่าควรบอกความลับแก่บุตร ส่วนอีกคนก็ว่า ควรบอกความลับแก่มารดา ชะรอยอาจารย์เหล่านี้จะต้องมีความลับส่วนตัวที่ปกปิดไว้เป็นแน่ มิเช่นนั้นแล้ว คงจะไม่กล้ายืนยันต่อพระราชาเช่นนี้
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 99
พวกท่านก็ลองคิดดูเถิด ถ้าพระราชาทรงทราบเรื่องนี้เข้า กระผมจะเหลืออะไร” ความลับของอาจารย์ทั้งสามล้วนเป็นเรื่องคอขาดบาดตายด้วยกันทั้งนั้น
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 67
ในระหว่างเดินทาง มโหสถเป็นห่วงว่านางจะได้รับความลำบาก จึงได้มอบร่มและรองเท้าให้แก่นาง พร้อมกับกล่าวว่า “อมรา น้องรัก เจ้าจงรับร่มและรองเท้าคู่นี้ไว้เถิด เพราะหนทางข้างหน้ายังอีกไกลนัก หากมีร่มกั้นเสียหน่อย ถึงแดดจะแผดกล้าเพียงใด ก็ไม่อาจแผดเผาผิวกายของเจ้าได้ และหากว่าเจ้าได้สวมใส่รองเท้าคู่นี้ ก็จักช่วยป้องกันเสี้ยนหนามตามทางได้เป็นอย่างดี”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 68
การจะนำกุลสตรีผู้สมบูรณ์ ด้วยสติปัญญา และมารยาทอันงดงามเข้าสู่เรือนในฐานะภรรยาของตนในสภาพที่ไม่มีใครรู้จักเลย นั้น เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง จำเป็นที่จะทำเกียรติคุณของนางให้ปรากฏ และรายงานให้พระนางอุทุมพรเทวีทรงทราบเสียก่อน แล้วจึงค่อยนำนางเข้าเรือนด้วยเกียรติยศอันสูงส่งจึงจะเป็นการเหมาะสม
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 58
ท้าวเธอทรงปลอบพระนางอุทุมพรให้ทรงคลายพระปริวิตก แล้ว ก็ทรงครุ่นคิดหาปริศนาข้อใหม่ที่จะใช้ทดสอบปัญญาราชบัณฑิตของพระองค์อีก ครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ท้าวเธอก็ทรงดำริถึงปัญหาข้อหนึ่งขึ้นมาได้ นั่นคือปัญหาว่า ระหว่างบุคคลผู้ด้อยปัญญา แต่สมบูรณ์ด้วยยศ และโภคทรัพย์ กับบุคคลผู้เปี่ยมด้วยปัญญาแต่ด้อยยศศักดิ์ นักปราชญ์ทั้งหลายสรรเสริญผู้ใด ว่าเป็นผู้ประเสริฐกว่ากัน
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 59
พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับแล้ว ก็ทรงหนักพระทัยอยู่มิใช่น้อย เพราะตัวอย่างของโครวินทเศรษฐีที่ท่านเสนกะยกอ้างมานั้น พระองค์ก็ทรงทราบดี แม้นใครๆก็รู้จักทั่วบ้านทั่วเมือง เป็นข้อยืนยันมั่นคงว่า บุคคลผู้ไม่มีศิลปะ ไม่มีพวกพ้อง แม้รูปร่างจะไม่สมประกอบก็ตามที แต่ขอให้มีทรัพย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น อำนาจของทรัพย์ย่อมอำนวยสุขให้อย่างมหาศาล
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 60
อาจารย์เสนกะถูกมโหสถเย้ยกลับด้วยถ้อยคำที่เชือด เชือนเช่นนั้น ก็รู้สึกขุ่นเคืองใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็พยายามสกัดกั้นอารมณ์นั้นไว้ไม่แสดงออก เพื่อให้สมกับที่ตนเป็นผู้มีอาวุโสกว่า ครั้นแล้วก็ได้กราบทูลท้าวเธอต่อไปว่า “ขอเดชะ มโหสถยังเด็กเหลือเกิน ปากก็ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ผ่านโลกมาเพียงไม่กี่ปี แล้วเธอจะรู้อะไร พระพุทธเจ้าข้า”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 88
เมื่อพระเจ้าวิเทหราชทรงสดับคำ พยากรณ์นั้นแล้ว ก็ทรงเข้าพระทัยเนื้อความของปัญหาอย่างแจ่มแจ้ง ปริศนานั้นจึงกระจ่างแจ้งแก่พระหฤทัยของท้าวเธอ ดุจเผยสุริยมณฑลให้มาปรากฏท่ามกลางนภากาศ แม้เทวดาผู้เป็นเจ้าของปัญหานั้นเล่า ก็ปลื้มปีติเกินประมาณ รีบเผยกำพูฉัตรออกมาสำแดงกายกึ่งหนึ่งให้ปรากฏ พลางเปล่งสาธุการด้วยเสียงทิพย์อันกังวาน
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 89
มารดาถูกลูกในไส้เถียงเข้าอย่างนั้น ก็โกรธเคือง ด่าว่า “หนอยแน่ะ เจ้าลูกบังเกิดเกล้า เอ็งมาหลอกกินขนมข้า แล้วก็ไม่ไป” หนูน้อยเห็นเป็นเรื่องขบขันที่หลอกมารดาของตัวได้ จึงแกล้งยกมือบ้าง ทำปากแบะแสยะยิ้มบ้างเพื่อล้อมารดา แล้วก็วิ่งหนีตะเลิดไปเสีย