การพัฒนาบุคคลากรด้วยปัญญา 3 ฐาน
ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ได้เสนอวิธีการพัฒนาบุคลากรด้วยหลักปัญญา 3 ฐาน คือ ฐานกาย ฐานใจ ฐานความคิด ซึ่งแท้จริงแล้วนำมาจากหลักในพระพุทธศาสนานั่นเอง คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ในเชิงบริหารนั่นเอง
วิธุรบัณฑิตบําเพ็ญสัจจบารมี (5)
บุคคลอยู่ในเรือนของผู้ใดแม้คืนเดียว ได้กินข้าวและดื่มนํ้าแล้ว ไม่ควรคิดร้ายแก่ผู้นั้นแม้ด้วยใจ ผู้คิดร้ายต่อบุคคลเช่นนั้น ชื่อว่าเผาฝ่ามืออันชุ่ม และชื่อว่าประทุษร้ายมิตร บุคคลนั่งหรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่ควรหักรานกิ่งของต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทราม
ศีล..ทางมาแห่งรูปสมบัติ
ศีลเป็นบ่อเกิดแห่งความสงบ ความดีงาม เนื่องจากศีลเป็นคุณธรรมที่ช่วยรักษา กาย วาจาให้เป็นระเบียบเรียบร้อย การรักษาศีลให้บริสุทธิ์จะทำให้ใจสงบ ปลอดกังวล ช่วยให้สามารถบรรลุธรรมได้โดยง่าย
ชัยชนะครั้งที่ 6 (ตอนที่ 1 ชนะสัจจกนิครนถ์)
พระจอมมุนีทรงรุ่งเรืองด้วยประทีปคือปัญญา ได้ทรงชนะสัจจกนิครนถ์ผู้เป็นคนมืดบอด มีอัธยาศัยไม่ยอมรับความจริง มีใจคิดแต่จะยกตนข่ม ด้วยเดชแห่งพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน
พุทธบุตรต้องสวมหัวใจความเป็นพระแท้ด้วย “สัมมาอะระหัง”
ช่วงนี้เป็นฤดูกาลแห่งการเข้าพรรษา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการฝึกฝนอบรมตนเองของพระภิกษุให้เป็นพระแท้ที่สมบูรณ์พร้อมทั้งกิจวัตรกิจกรรม เพื่อนำพาไปสู่การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน โดยเฉพาะการฝึกฝนอบรมจิตถือเป็นการฝึกที่สำคัญที่สุดของพระ เพราะจิตที่สะอาดผ่องใสย่อมส่งผลให้ศีล สมาธิ ปัญญา และสมณสัญญาเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้การฝึกจิตเป็นไปอย่างก้าวหน้า รวดเร็ว ต้องอาศัยการภาวนา “สัมมาอะระหัง” กำกับตลอดเวลา
ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (๒)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางสุดโต่งสองอย่างบรรพชิตไม่ควรเสพ คือ การทรมานตัวเองให้ลำบากและการประกอบพัวพันในกาม
จดหมายจาก Middle Way
ในระหว่าง วันที่ 24 - 30 เม.ย. 2557 นี้ มี 29 คน จาก 15 ชาติ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาข้ามอีกทะเลนึง เข้าสู่มุกตะวัน ดินแดนเพื่อการปฏิบัติธรรมและได้รู้จักการฝึกตน 8 ข้อ (ศีล 8) เพื่อช่วยให้กายและใจเหมาะสมกับการนั่งสมาธิ
ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๑ ชนะสัจจกนิครนถ์)
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลผู้เลิศทั้งพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ จะหาบุคคลใดๆ ในภพทั้งสาม มาเสมอเหมือนหรือ
การสื่อสารไร้สายสมัยพุทธกาล ตอนที่ 1
พวกเราเคยคิดไหมเอ่ยว่า ในครั้งพุทธกาลเนี่ย พระพุทธศาสาแผ่ขยายไปกว้างขวาง คิดเป็นพื้นที่ก็ใหญ่กว่าประเทศไทยปัจจุบันเสียอีก คณะสงฆ์ก็มีอยู่มากมาย เป็นแสน เป็นล้านองค์ กระจายอยู่เต็มแผ่นดิน แล้วในยุคนั้น โทรศัพท์ก็ไม่มี มือถือก็ไม่มี วิทยุก็ไม่มี โทรทัศน์ก็ไม่มี อินเตอร์เน็ตก็ไม่มี แฟ๊กซ์ก็ไม่มี แล้วเวลาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เทศน์สอนคำสอนขึ้นมาแต่ละข้อๆ เนี่ย แต่ละเรื่อง คณะสงฆ์ที่กระจายเต็มแผ่นดินจะรู้ได้อย่างไร เพราะในยุคนั้นยังไม่มีพระไตรปิฎกเลยใช่ไหม พระไตรปิฎกบังเกิดขึ้นหลังจากพุทธกาล หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระอรหันต์ 500 รูป จึงสังคายนา ประมวลคำสอนของพระองค์ทั้งหมดมาบรรจุเป็นพระไตรปิฎก
มีผัวผิด คิดจนเมียตาย
ขณะนี้สถิติการหย่าร้างสูงขึ้น คิดเป็น 35% ของคู่ที่จดทะเบียนใหม่สาเหตุหลักคือ 1. การนำความตึงเครียดจากการที่ทำงานเข้ามาสู่ที่บ้าน 2. ต่างคนต่างพึ่งพาตัวเองได้ ไม่แคร์กัน