ต้นบัญญัติมารยาทไทย ตอนที่ ๒ บ่อเกิดของมารยาทไทย หมวดที่ ๑ สารูป
ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็เกี่ยวกับการรักษารูปของเรา คือ เรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวและกิริยามารยาทต่าง ๆ ซึ่งของพระภิกษุท่านว่าไว้อย่างนี้ ข้อ ๑-๒ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักนุ่ง-จักห่มให้เรียบร้อย”
ไม่มีโจทย์ชีวิตไหนที่ยาก หากใจของเราหยุดนิ่งเพียงพอ
จนกระทั่งลูกรู้สึกว่า ไม่มีโจทย์ชีวิตไหนที่ยาก หากใจของเราหยุดนิ่งเพียงพอ “หยุด” คำเดียวเท่านั้น ไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย การทำใจใสๆ หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย ทำทุกวัน ทำอยู่ซ้ำๆ แค่นี้ลูกก็เป็นสุข อยู่เหนือทุกข์ได้เอง จิตใจสูงขึ้น ความคิดเป็นกุศลตลอด ทำให้ใจมีธรรมะมากขึ้น สอนตนเองและคนอื่นได้
มงคลที่ 37 - จิตปราศจากธุลี - รักษาใจให้เข้าถึงธรรม
ตั้งแต่บวชมา อาตมามีความสุขในเพศสมณะตลอดทั้งวันทั้งคืน จิตใจโปร่งโล่งเบาสบาย ไม่มีความกังวลใดๆเลย และทำความเพียรตลอดเจ็ดวัน พอถึงวันที่แปดจึงได้สำเร็จกิจอันสูงสุดในพระพุทธศาสนา อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นผู้ไม่เคยยินดีในลาภสักการะสรรเสริญ ไม่เคยมีอาพาธเลยแม้แต่น้อย จึงไม่ต้องแสวงหายามารักษาสรีรยนต์นี้
มงคลที่ ๓๑ บำเพ็ญตบะ - พรรษาแห่งการบรรลุธรรม
แม้ดวงตาภายนอกจะมืดบอด แต่ตาภายใน คือ ธรรมจักษุของท่านนั้น สว่างไสวยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน เป็นแสงสว่างที่นำมาซึ่งความสุข ความบริสุทธิ์ และความรู้แจ้งในธรรมทั้งหลาย แทงตลอดในนิพพาน ภพสาม โลกันตร์ อีกทั้งในพรรษานั้น ท่านยังได้สั่งสอนลูกศิษย์และพุทธบริษัทให้ได้บรรลุธรรมกันมากมาย
รัตนะภายใน
ชนทั้งหลายย่อมแสดงธรรมกาย และไม่อาจทำบ่อเกิดแห่งรัตนะทั้งสิ้นให้กำเริบได้ ใครได้เห็นแล้วจะไม่เลื่อมใสเล่า
คิดผิดคิดใหม่ได้ (๓)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ อย่างที่บุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔ นี้คือ การฟังธรรมตามกาล การสนทนาตามกาล การสงบตามกาล และการพิจารณาตามกาล กาล ๔ อย่างนี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ
อีกครั้ง...กับ 2 มาไซ ผู้เห็นองค์พระ
ตอนเจอ เลส-ขะ ครั้งแรกสุด ผิวของเขาก็ดูดำขลับเหมือนมาไซคนอื่นๆ แต่หลังจาก เลส-ขะ เห็นองค์พระ และนั่งสมาธิต่อเนื่องทุกวัน พอมาเจออีก ก็รู้สึกหน้านวลขึ้น หน้าตาดูแจ่มใสกว่าแต่ก่อน ตอนเจอแรกๆดำ ตอนนี้ดำจางลง เลส-ขะ บอกว่า ตั้งแต่นั่งสมาธิแล้ว เวลาเขาเดินไปไหนมาไหน รู้สึกเดินสบายขึ้นกว่าเดิม
มงคลที่ ๑๖ ประพฤติธรรม - ที่พึ่งในภพหน้า
รรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์หรือสิ่งของ เมื่อเกิดขึ้นก็ตั้งอยู่ได้ชั่วขณะ ในที่สุดทุกอย่างต้องแตกสลายไปตามกาลเวลา มนุษย์เราเกิดมาพร้อมกับความแก่ ความเจ็บและความตาย เหมือนดอกเห็ดที่โผล่ขึ้นมาจากดิน ย่อมนำดินติดขึ้นมาด้วย ชีวิตเราถูกความชราและมรณะครอบงำตลอดเวลา โดยที่เราไม่ทันได้เฉลียวใจว่า นั่นคือศัตรูที่รุกรานอย่างเงียบๆ
ผลการปฏิบัติธรรม อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน รุ่นหนึ่งแสนคน
อุบาสิกาแก้วทัสมา บุญบำรุง
ดูแลบ้านหลังน้ำท่วม
น้ำคือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของธรรมชาติ และธรรมชาติเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เกินกว่าที่มนุษย์จะไปท้าทายแข่งขัน รั้วคอนกรีตของท่าน คงจะไม่สามารถฝืนกฎนี้ได้