มงคลที่ 37 - จิตปราศจากธุลี - ธรรมรักษาผู้ประพฤติธรรม
พระอุปัชฌาย์จึงเข้าฌานสมาบัติ อธิษฐานให้แผ่นดินแยกออกจากกัน แล้วนำไฟจากอเวจีมหานรกมาเพียงเล็กน้อย แค่เท่าแสงหิ่งห้อย มาใส่ที่กองไม้นั้น เพียงชั่วพริบตา กองไม้สดนั้นก็มอดไหม้หมด เหมือนจุดไฟเผาใบไม้แห้ง ฉะนั้น
อานิสงส์ต้อนรับพระพุทธเจ้า
แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาทีละหยาดๆ ได้ฉันใด ธีรชน แม้สั่งสมบุญทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบุญได้ ฉันนั้น
จุดจบของผู้ก่อเวร
ในกาลไหนๆ เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร เวรทั้งหลายย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร นั่นเป็นธรรมเก่า
กรรมตามสนอง
ผู้ใดประทุษร้ายต่อนรชนผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสดุจเนิน บาปย่อมกลับถึงผู้นั้นซึ่งเป็นคนพาล เหมือนธุลีอันละเอียด ที่ซัดไปทวนลมฉะนั้น
โทษของการกักขังสัตว์
บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้ ถึงจะหนีไปทางอากาศ ก็พ้นจากกรรมชั่วไปไม่ได้ หนีไปในท่ามกลางมหาสมุทร ก็พ้นจากกรรมชั่วไปไม่ได้ หนีเข้าไปในซอกเขาก็ไม่พ้นจากกรรมชั่วได้ ไม่มีสถานที่ใด ที่จะพ้นจากการรับผลกรรมชั่วได้เลย
หลุดพ้นจากเวร
เพราะเหตุใด พวกเธอจึงจองเวรกันอย่างนี้ ถ้าหากพวกเธอไม่มาพบเราแล้ว เวรของพวกเธอจะเป็นเช่นนี้อยู่ชั่วกัป เหมือนเวรของงูกับพังพอน ของหมีกับไม้ตะคร้อ ของกากับนกเค้า เพราะฉะนั้น จงเลิกจองเวรกันเถิด เพราะเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
บัณฑิตควรตักเตือนกัน
คนเราควรเตือนสติกัน ควรแนะนำกัน และควรห้ามปรามกันจากอกุศลกรรม คนที่ทำเช่นนั้น ย่อมเป็นที่รักของคนดี แต่ไม่เป็นที่รักของคนไม่ดี
กฎแห่งกรรม
กฎแห่งกรรม กรรมลิขิต คนเกิดมารับกรรมจริงไหม ? กรณีศึกษาตัวอย่างของกฎแห่งกรรม ตายแล้วไปไหน ไปอย่างไร หาคำตอบได้ที่นี่ ที่เดียว
กรรมลิขิต คนเกิดมารับกรรมจริงไหม ?
กฏแห่งกรรม กรรมลิขิต กฏแห่งการกระทำ ทั้งอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และอนาคตชาติ คนเกิดมารับกรรมจริงไหม? มีบางท่านเข้าใจผิด และสั่งสอนกันมาจนพูดติดปากอยู่คำหนึ่งคือคำว่า “คนเราเกิดมารับกรรม”
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - ไม่ควรดูหมิ่นบุญ
ขึ้นชื่อว่าบุญ อันใครๆ ไม่ควรดูหมิ่นว่าเล็กน้อย บุคคลถวายทานแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขแล้ว ไม่ควรดูหมิ่นบุญว่าเล็กน้อย เพราะว่าบุคคลผู้ฉลาดในการทำบุญ ย่อมเต็มเปี่ยมไปด้วยบุญโดยลำดับ เปรียบเหมือนภาชนะที่เปิดฝา ย่อมเต็มไปด้วยน้ำ ฉะนั้น