ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 84
มโหสถบัณฑิตแลเห็นอำมาตย์นั้นแต่ไกล ก็รู้ทันทีว่าอำมาตย์ผู้นั้นถูกพระราชาใช้ให้มาตาม หาตน ครั้นแล้วจึงดำริต่อไปว่า “บัด นี้ได้เวลาที่เราจะกลับคืนสู่มิถิลานครเสียที เมื่อกลับไปถึงแล้ว เราก็จะได้บริโภคโภชนาหารรสเลิศที่อมราเทวีจัดเตรียมไว้เพื่อต้อนรับ”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 82
ครั้นรัตติกาลใกล้รุ่ง ขณะที่พระเจ้าวิเทหราชกำลังทรงพระบรรทมภายในห้องพระบรรทม เทวดาตนนั้นจึงแสดงกายให้ปรากฏ แหวกกำพูฉัตรออกมาต่อเบื้องพระพักตร์ของพระเจ้าวิเทหราช ออกมายืนอยู่ในอากาศให้พระเจ้าวิเทหราชได้ทอดพระเนตร พร้อมกับแผ่รัศมีกายให้สว่างไสวสาดกระทบไปทั้งห้องบรรทมของท้าวเธอ
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 47
ท้าวเธอทรงผินพระพักตร์ไปทางเหล่าราชบุรุษ ตรัสพลางแย้มพระสรวลว่า “เออ....พวกเจ้าจงดูนี่สิ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานมันก็ยังรู้จักทำความเคารพ ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง แล้วพวกเจ้าล่ะ จะสู้มันได้รึ” พวกราชบุรุษได้ฟังเช่นนั้น ก็หันมามองหน้ากันเลิกลั่ก
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 43
เมื่อได้ชี้แจงที่มาที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาจารย์เสนกะจึงออกคำสั่งให้เริ่มงานขุดลอกสระโบกขรณีแห่งนั้นในทันที “ท่านทั้งหลาย ขอพวกท่านจงพร้อมใจกันสนองงานแด่เจ้าเหนือหัวด้วยความอุตสาหะเถิด อย่าได้เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบากกันเลยนะ เอาละ!! เมื่อพร้อมกันแล้ว ก็เริ่มลงมือกันได้เลย”
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - มหาทาน คือ เสบียงสู่ความหลุดพ้น
วันหนึ่งพระเจ้าเภรุวมหาราชทอดพระเนตรโรงทานของพระองค์ ทรงดำริว่า ปฏิคาหก ผู้รับทานของเรานี้ ล้วนเป็นผู้ทุศีล บริโภคทานแล้วไม่ทำให้จิตใจของทายกยินดีเลย ทำอย่างไรหนอเราจึงจะได้เนื้อนาบุญ เราปรารถนาจะถวายทานกับพระปัจเจกพุทธเจ้า
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 41
มาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจนึกแคลงใจว่า ธรรมดาพระโพธิสัตว์ย่อมจะรู้อุปการะคุณของบิดามารดา มีความเคารพในบิดามารดาอย่างยิ่งมิใช่หรือ เมื่อเป็นดังนี้ การที่มโหสถบัณฑิตนั่งในที่สูงกว่าบิดา และกราบทูลพระราชาเช่นนั้น จะถือว่าเป็นดูหมิ่นบิดาของตนหรือไม่
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 40
ครั้นทรงสดับว่าลามหัศจรรย์ ท้าวเธอก็ยิ่งทรงฉงนพระทัย จึงตรัสถามว่า “เหตุใด เธอถึงเรียกว่าลามหัศจรรย์เล่า” มโหสถจึงรีบกราบทูลว่า “ลาตัวนี้แหละ จักทำความสงสัยของพระองค์ ให้ถึงที่สุดอย่างไรเล่า พระพุทธเจ้าข้า”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 36
อาจารย์เสนกะและสหายปุโรหิต เมื่อได้ทราบข่าวด่วนจากพนักงานกรมวังว่า พระราชาทรงเสด็จกลับมาแล้ว ทั้งที่ยังไปไม่ถึงปาจีนยวมัชฌคาม ก็ยิ่งบังเกิดความฉงนใจ ใคร่จะรู้ว่ามีเหตุการณ์อันใดเกิดขึ้น ท้าวเธอถึงได้เสด็จกลับมาเร็วนัก แต่ในขณะเดียวกันก็พากันดีอกดีใจอยู่ที่ไม่น้อย ที่อย่างน้อยๆ ก็มีเหตุให้สามารถประวิงเวลาพระองค์ไว้ได้อีกชั่วระยะหนึ่ง อาจารย์เสนกะก็นึกกระหยิ่มใจว่า “คราวนี้เป็นทีของเราบ้างละ” จึงได้คิดหาเหตุผลเพื่อสนับสนุนสิ่งที่ตนทูลไว้ในครั้งก่อน
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 35
ความริษยานั้น เมื่อมันเข้าครอบงำใจบุคคลใด ก็ย่อมทำให้บุคคลนั้นมีจิตใจคับแคบ ทนไม่ได้เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีมีสุขกว่าตน เร่าร้อนอยู่ด้วยไฟแห่งริษยา จากคนที่มีปัญญามาก มีความสง่าผ่าเผย กลับต้องปิดบังซ่อนเร้นการกระทำที่ไม่ซื่อของตน ก็จะกลายเป็นคนอาภัพไร้ยศศักดิ์ในที่สุด
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 33
“พวกพระองค์ได้เพียรพยายาม ทุกวิถีทางเพื่อจะนำสระโบกขรณีมาถวายพระองค์ให้จงได้ แต่เพราะเหตุที่พวกข้าพระองค์เป็นผู้ด้อยปัญญา ด้วยความเขลาจึงสำคัญผิดไปว่า การนำสระโบกขรณีเก่ามาผูกติดกับสระโบกขรณีใหม่นั้น อาจมีช่องทางให้สำเร็จตามประสงค์ได้ พระองค์ผู้สมมุติเทพ ก็พระองค์จักเป็นผู้ยืนยันให้แจ้งชัดในที่นี้ได้หรือไม่ว่า ใครๆ ก็ไม่อาจจะผูกสระโบกขรณีให้ติดกันได้ พระเจ้าค่ะ”