ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 4
“โอ จริงๆ ด้วย เธอเป็นถึงพระอัครมเหสี นี่พระนางทรงพระครรภ์ด้วยหรือนี่ หม่อมฉันขอพระราชทานอภัยด้วย ที่แสดงอาการไม่สุภาพ” “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ” “แล้วพระเทวีจะไปที่ไหนต่อ พระเทวีทรงมีพระประยูรญาติอยู่ในเมืองนี้บ้างหรือไม่ละ” “ฉันไม่รู้จะไปทางไหนเหมือนกัน เพราะไม่รู้จักใครในเมืองนี้เลย”
ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 3
“เมื่อก่อนข้าพระองค์ไม่เคยคิดเป็นศัตรูต่อเจ้าพี่เลย ทั้งไม่เคยแปรพักตร์คิดแย่งชิงราชสมบัติ แต่พระเจ้าพี่เชื่อฟังคำยุยงของอำมาตย์ผู้ใกล้ชิด จะสำเร็จโทษข้าพระองค์ บัดนี้ หม่อมฉันจะขอราชสมบัติหละ เจ้าพี่จะมอบราชสมบัติให้แก่หม่อมฉันหรือจะรบจงรีบตอบมา”
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 12
แต่ครั้งนี้ หากพระองค์จะทรงเมตตาหม่อมฉัน ก็ขอให้พระองค์ได้ทรงโปรดพระราชทานราชสมบัติ ให้เตมิยกุมารลูกรักของหม่อมฉันได้ครอบครองเพียงแค่เจ็ดวันเถิด หม่อมฉันขอพระองค์เพียงชั่วระยะเวลาเจ็ดวันเท่านั้นเพคะ เพราะมิเช่นนั้นแล้ว หม่อมฉันก็คงไม่อาจมีชีวิตต่อไป เป็นแน่
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 10
ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระยศยิ่งฟ้า ถ้าพระองค์ยังทรงเลี้ยงพระกุมารผู้เป็นกาลกิณีไว้ภายใต้ร่มเศวตฉัตรต่อไป ไม่ช้าแผ่นดินนี้ก็จะเกิดอาเพศ...อันตรายอย่างใหญ่หลวงจะบังเกิดขึ้น
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 9
การครองเรือนก็เป็นทุกข์อย่างนี้ เมื่อยังไม่มีลูกก็เป็นทุกข์เพราะอยากจะมีลูก แม้รู้ว่าจะต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในการให้กำเนิดบุตรก็ยอม เมื่อมีลูกแล้วก็เป็นทุกข์อีก เพราะจะต้องดูแลรับผิดชอบเลี้ยงดู ต้องให้การศึกษาอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าลูกไปคบเพื่อนซึ่งเป็นคนพาล เขาชวนไปประพฤติผิดศีลผิดธรรม ไปติดอบายมุข ไม่สนใจการศึกษาเล่าเรียน กลายเป็นคนเกะกะเกเร ไม่เป็นอย่างที่ใจหวังก็ยิ่งทุกข์หนักขึ้นไปอีก
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 3
“ลูกเราเป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด ย่อมไม่เกิดเพียงลำพังผู้เดียว จะต้องมีบริวารติดตามมาเป็นแน่แท้” จึงตรัสเรียกเสนาบดีมาเข้าเฝ้า แล้วรับสั่งว่า “ท่านจงไปเที่ยวสืบดูทีซิว่า ในเรือนของเหล่าอำมาตย์ในวันนี้นะ มีทารกเกิดขึ้นบ้างหรือไม่” ท่านเสนาบดีรับคำว่า “รับด้วยเกล้าพะย่ะคะ ข้าพระองค์จะรีบตรวจค้นตามเรือนอำมาตย์ให้ทั่ว ขอพระองค์ทรงวางพระทัยเถิดพระเจ้าข้า”แล้วก็เป็นจริง
ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 2
“ข้าพเจ้ารักษาศีลด้วยความบริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่มีด่างพร้อยเลยแม้แต่น้อย ตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ด้วยสัจจวาจานี้ ขอบุตรจงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด” ด้วยอำนาจแห่งอุโบสถศีล และสัจจอธิษฐานของพระนางจะเกิดผลประการใด จะร้อนไปถึงเทวดาองค์ใดหรือไม่ โปรดติดตาม
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี )
เราตถาคตเมื่อสละชาลีโอรส กัณหาชินาธิดา และ มัทรีเทวี ผู้เคารพต่อภัสดา มิได้คิดเสียดายเลย เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณเท่านั้น ลูกทั้งสองเป็นที่เกลียดชังของเราก็หามิได้ มัทรีเทวีไม่เป็นที่รักของเราก็หามิได้พระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรายิ่งกว่า เพราะฉะนั้นเราจึงได้ให้บุตรธิดา และเทวีผู้เป็นที่รักเสีย
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๓ ( กำเนิดพระเวสสันดร )
ครั้นพระโพธิสัตว์ออกมาจากครรภ์ของพระมารดา เพียงลืมพระเนตรทั้งสองได้เท่านั้น ก็เหยียดพระหัตถ์ออกมาพลางกล่าวกับพระมารดาว่า “ข้าแต่พระแม่เจ้า หม่อมฉันจะบริจาคทาน มีทรัพย์อะไรพอที่จะให้ลูกบริจาคได้บ้าง” พระชนนีตรัสตอบว่า “ลูกรัก ลูกจงบริจาคทานตามอัธยาศัยเถิด” จากนั้น
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๒ ( พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ )
ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำการบูชาพระองค์ด้วยจุณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าได้เป็นมารดาของพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์ในอนาคตกาล